Author: Riley Curtis

            การเรียนรู้ด้วยตัวเองและการเรียนรู้โดยีผู้สอน ย่อมได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอนรูปแบบใดก็จำเป็นที่จะต้องใช้สื่อการเรียนการสอน ที่นับว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นในปัจจุบันนี้ เพราะว่าผู้เรียนส่วนมากจะมีความจดจ่อต่อสิ่งที่กระทำอยู่ค่อนข้างน้อย เนื่องจากในชีวิตประจำวันมีการดูโทรทัศน์ ดูมือถือ ที่สามารถทำการเปลี่ยนไปได้ตามต้องการภายใช่วงเวลาไม่กี่วินาที ดังนั้นการเข้ามาเรียนในชั่วโมงเรียนเป็นเวลานาน ผู้เรียนจะรู้สึกเบื่อหน่ายไม่มีสมาธิในการเรียน ซึ่งการแก้ปัญหาดังกล่าวสามารถนำสื่อการสอนมาเป็นตัวช่วยเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียนให้สนใจกับบทเรียนได้ โดยการเลือกใช้สื่อการสอนให้เหมาะสมกับช่วงเวลามีเทคนิคการใช้ดังนี้ 1. การนำเข้าสู่บทเรียน             ช่วงเวลาก่อนการเข้าเรียนนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะหากไม่สามารถดึงความสนใจของผู้เรียนให้มีความอยากรู้ในเรื่องที่เรียนได้แล้ว ระยะเวลาในช่วงที่เหลือของการเรียนจะเพิ่มความน่าเบื่อให้กับผู้เรียนมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้เรียนไม่สนใจในเนื้อหาที่ผู้สอนทำการสอนอยู่ ดังนั้นในช่วงเริ่มต้นชั่วโมงเรียนควรใช้สื่อการสอนช่วยดึงความสนใจของผู้เรียนให้มีความอยากรู้ในเนื้อหาที่กำลังจะสอน เช่น หากสอนเรื่องชีวิตสัตว์ อาจจะมีรูปภาพสัตว์ที่ต้องการทราบถึงวงจรชีวิต และถามผู้เรียนว่าใครรู้บ้างว่าสัตว์ชนิดนี้มีวงจรชีวิตอย่างไร…

ในยุคที่เรียกว่ายุคแห่งเทคโนโลยีแบบนี้ เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายๆ เรื่องมีการพัฒนาไปมาก แม้แต่การศึกษาก็ยังคงต้องเข้าสู่การศึกษา 4.0 ซึ่งบอกได้เลยว่ารูปแบบของการศึกษาของไทยจำเป็นที่จะต้องมีทิศทางที่เปลี่ยนไปให้มีความสำคัญต่อยุคสมัยดังนั้นการศึกษาของไทยจึงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนอาจจะยังคงมีเรื่องถกเถียงกันวางจะต้องพัฒนาไปในทิศทางใดครูจะต้องมีบทบาทอย่างไรและตัวนักเรียนเองจะต้องมีทักษะอะไรเพิ่มเติมบ้างเพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตทั้งนี้ก็เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในโลกแห่งการแข่งขันดังนั้นวันนี้เรื่องของการศึกษาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก่อนเรื่องอื่นๆเป็นอันดับแรก ด้วยความที่สภาพแวดล้อมรอบตัว นักเรียนหรือเด็กที่เป็นกลุ่มเยาวชนมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากและมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วดังนั้นวิธีการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลต่างๆรวมไปถึงธรรมชาติในการเรียนรู้ของตัวนักเรียนเองจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยโดยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนที่สำคัญเข้ามามีบทบาทต่อการเรียนเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการรับข้อมูลหรือการต่อยอดรวมไปถึงการถ่ายทอดความรู้ต่างๆดังนั้นจึงถือได้ว่าเด็กในปัจจุบันนี้เป็นเยาวชนซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและความทันสมัยซึ่งเป็นคนละรูปแบบโดยสิ้นเชิงกับการเรียนในสมัยก่อนเด็กในยุคนี้ถูกพัฒนาให้มีกระบวนการคิดอย่างรอบคอบมากขึ้น เรียนรู้ที่จะแชร์ข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองอย่างเสรีเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งยังมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าเด็กในสมัยก่อนอีกด้วยหมายความว่าเด็กในยุคนี้กล้าคิดกล้าแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาบนพื้นฐานของหลักการและเหตุผลรวมถึงการแสดงทัศนคติส่วนตัวได้เป็นอย่างดีนั่นเอง สิ่งต่างๆเหล่านี้ถูกหล่อหลอมขึ้นเนื่องจากสภาพแวดล้อมและเทคโนโลยีรวมถึงสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปดังนั้นคงไม่เป็นการดีแน่หากการเรียนการสอนของไทยยังคงเป็นแบบเก่าที่ครูป้อนและเด็กรับเอาไปซึ่งนอกจากจะทำให้เด็กไม่พัฒนาแล้วรูปแบบการศึกษาโดยรวมของไทยยังเรียกว่าไม่พัฒนาอีกด้วยดังนั้นในปัจจุบันนี้หน้าที่ของครูโดยส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้ให้คำปรึกษาและคอยผลักดันสนับสนุนให้เด็กสามารถจัดการกับการเรียนและสภาพแวดล้อมของตัวเองได้ด้วยตัวเองเมื่อเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วครูไม่สามารถเป็นผู้ครอบครองบทบาทในการสอน ได้อีกต่อไป สิ่งที่ครูพึงกระทำและเป็นบทบาทที่สำคัญในตอนนี้คือการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กเรียนรู้นอกห้องเรียนรวมทั้งเรียนรู้เพิ่มความสร้างสรรค์ในกระบวนการคิดและทักษะบางอย่างอีกทั้งในส่วนของตัวครูเองยังต้องมีการปรับเปลี่ยนตัวเองทั้งในเรื่องของทักษะการสอนและการเป็นผู้ประกอบการในการที่จะปั้นเด็ก 1 คนให้เปิดโตขึ้นมาเป็นคนดีและมีความรู้ความสามารถให้ทันต่อยุคสมัยดังนั้นตัวครูเองจึงต้องเป็นบุคคลแรกที่เริ่มพัฒนาจากตัวเองก่อนเช่นกัน